Windows 10

ซึ่งถ้าเกิดอาการดังกล่าว เราก็เพียงแค่กดปุ่ม Ctrl+Alt+Del หรือ Ctrl+Shift+ESC เพื่อเรียกหน้าต่าง Windows Task Manager ขึ้นมา เพื่อสั่ง End Task ตัวโปรเซสที่มีปัญหา แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราจะเอาเจ้า Kill Not Responding Tasks มาไว้ที่เมนูคลิกขวา Context Menu เลย เพื่อให้ง่ายและสะดวกรวดเร็วต่อการเรียกใช้

สำหรับการทำ Windows 10 Recovery กับ USB Drive เรื่องนี้จะเป็นวิธีพื้นๆ แต่ถือว่าเป็นความสำคัญที่หลายๆท่านที่ใช้ Windows 10 ควรมีติดบ้านหรือเอาไว้ใกล้ตัว เพราะหากวันดีคืนดีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เข้าใช้งานระบบ Windows ตามปกติไม่ได้ เช่น ต้องการใช้งาน System Restore, เรียกใช้งาน Safe mode, Reset PC, Refresh PC เป็นต้น ก็ต้องพึ่งพาเครื่องมือนี้ในการแก้ไขปัญหาครับ

Safe Mode เป็นตัวเลือกที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่จะคอยช่วยในเรื่องของการแก้ไขปัญหาจากการใช้งานที่เราคาดไม่ถึง เช่น ไฟล์ระบบ Windows มีปัญหา, ติดตั้งไดร์เวอร์ให้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ผิดรุ่น เป็นต้น ซึ่งบางครั้งเราจะไม่สามารถแก้ไขการทำงานที่ผิดพลาดต่างๆบนระบบ Windows ตามปกติได้ เพราะต้องแก้ไขบนโหมด Safe Mode เท่านั้น ครั้นจะรีสตาร์ทเครื่องใหม่ แล้วต้องมากดปุ่ม F8 ย้ำๆขณะบูตเครื่องใหม่ เพื่อให้ระบบบูตเข้าสู่โหมด Safe Mode ได้

สำหรับ วิธีทำให้ Google Chrome ใช้งาน Dark mode บน Windows 10 ได้ โดยล่าสุดเบราว์เซอร์ Chrome ของ Google ก็อยู่ระหว่างการพัฒนาเบราว์เซอร์ของตนให้สนับสนุนการแสดงผลแบบ Native dark mode หรือโหมดมืดได้เหมือนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สามารถปรับการแสดงผลแบบ Dark mode ได้นั่นเอง ทั้งนี้ หากผู้ใช้งานสนใจอยากลองเปลี่ยนจากหน้าต่าง Google Chrome ธรรมดา ไปใช้รูปแบบ Dark Mode ก็สามารถดาวน์โหลด Google Chrome Canary ไปใช้งานกันได้พลางๆ

มาต่อกันที่บทความ วิธีปิดการตั้งค่า Limit Reservable Bandwidth บน Windows 10 กันสักเล็กน้อย จริงๆก็ไม่เกี่ยวกับ Windows 10 เสียทีเดียว แต่วิธีการในบทความนี้จะเกี่ยวข้องกับ Windows รุ่นก่อนหน้าด้วย โดยปกติแล้วระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะมีการจำกัดการใช้งานแบนด์วิทด์หรือความเร็วอินเตอร์เน็ตที่เราได้รับจาก ISP สูงสุดเอาไว้ที่ 80% เพื่อไม่ให้เรารู้สึกสะดุดหรือเน็ตอืดกับการใช้งาน ส่วนความเร็วอีก 20% จะถูกสงวนเอาไว้สำหรับการอัพเดตแพทช์ปรับปรุงใหม่หรือการอัพเดตระบบทั้งหมดจากไมโครซอฟท์

สำหรับปัญหา Network access your folder can't be shared บน Windows 10 ส่วนใหญ่จะเกิดกับกรณีที่โฟลเดอร์ที่เราต้องการจะแชร์ให้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นบนระบบเน็ตเวิร์คภายในบ้านหรือองค์กรได้เข้ามาใช้งานกันอยู่นั่น ได้เคยมีการสั่งแชร์โฟลเดอร์ดังกล่าวเอาไว้และมีการกำหนดสิทธิ์หรือค่า Permission ให้กับผู้ใช้งานหรือ User บางท่าน แล้วอยู่มาวันหนึ่ง คอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวมีปัญหาบางอย่างให้ต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใหม่ สิทธิ์หรือค่า Permission ที่เคยกำหนดให้โฟลเดอร์เก่าเอาไว้ ก็ไม่ได้ถูกเคลียร์หรือถูกปลดล็อคการแชร์ไปด้วย เมื่อมีการสั่งแชร์โฟลเดอร์ใหม่ก็จะไม่สามารถทำได้

สำหรับวันนี้ผมจะขอพามาที่บทความพื้นๆกับ 5 วิธีการใช้คำสั่งเช็คดิสก์ Check Disk , Check Error หรือ Chkdsk บน Windows 10, Windows 8 กันสักนิดครับ สำหรับการใช้คำสั่งเช็คดิสก์ ส่วนใหญ่จะเอาไว้ใช้ในกรณีที่ไม่คาดฝัน เช่น ในขณะที่เราใช้คอมพิวเตอร์กันตามปกติ ใช้คอมพิวเตอร์ก็อบปี้ไฟล์ข้อมูลบนฮาร์ดดิสต์ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องมีการอ่าน/เขียนข้อมูลบนฮาร์ดดิสต์ ...

มาต่อกันอีกสัก 1 เรื่องกับ 5 วิธีแก้ Your Windows license will expire soon บน Windows 10 ซึ่งปัญหานี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับเพื่อนๆที่ใช้ Windows 10 ไม่แท้ (พูดอ้อมๆ หรือเอาตรงๆก็คือ Windows ปลอม!, เถื่อน!, ก็อบปี้! นั่นแหละ อิอิกำ) ก็จะเห็นผลได้ชัดเจนหลังจากที่เราได้ทำการติดตั้ง Windows 10 เสร็จ แล้วใช้ Activation ฯลฯ มาลงทะเบียน (แคร็ก) แล้วมีการอัพเดต Windows 10 ด้วย Windows Update ก็จะได้ประสบพบเจอกับเนื้อคู่ที่กำลังตามหาขึ้นมาทันที

สำหรับเกมเมอร์ทั้งหลายที่ใส่ใจปัญหาเรื่องความร้อนของการ์ดจอสุดรักของตน ก่อนหน้านี้หากใครอยากรู้ว่าการ์ดจอในคอมพิวเตอร์ของตนมีความร้อนอยู่ที่กี่องศาเซลเซียสในขณะที่เล่นเกมส์อยู่หรือเล่นเกมส์เสร็จแล้ว ก็จำเป็นต้องพึ่งซอฟต์แวร์อื่นๆมาช่วยในการตรวจสอบ ล่าสุดทางไมโครซอฟต์ก็จะทำการบรรจุฟีเจอร์ตรวจสอบอุณหภูมิการ์ดจอเอาไว้ที่ Windows Task Manager ด้วย และเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดต Windows 10's 20H1 กับ Windows Insider build 18963 และคาดว่าตัวเช็คอุณหภูมิดังกล่าวจะทำงานได้ดีที่สุดราวๆปีหน้าช่วงเดือน พฤษภาคม 2563

สำหรับวิธีล็อค Desktop Background ไม่ให้ใครเปลี่ยนบน Windows 10 กับคอมพิวเตอร์ที่มีผู้ใช้งานกันหลายคนและมีเราซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหลัก และเราได้กำหนดภาพแบคกราวน์หรือภาพหน้าจอวอลล์เปเปอร์บนเดสก์ทอปเอาไว้ ซึ่งอาจจะเป็นรูปที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ และไม่อยากให้ผู้ใช้งานคนอื่นทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เราสามารถสั่งล็อคภาพหน้าจอดังกล่าวเอาไว้ได้โดยเรียกใช้เครื่องมือ Local Group Policy Editor หรือคำสั่ง Gpedit.msc มาช่วยงานด้วยวิธีการง่ายๆดังต่อไปนี้