ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆท่านที่ใช้คอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปพีซีหรือโน้ตบุคก็ตาม กับการใช้ในเรื่องของการทำงานในชีวิตประจำวันต่างๆ หรือจะใช้สำหรับเล่นเกมส์ออนไลน์ เกมส์ออฟไลน์ หรือจะเอามาใช้ตอบสนองแทบทุกความต้องการ คงจะเคยประสบพบเจอกับสารพัดอาการ Computer Error หรือการทำงานที่ผิดพลาด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากตัวซอฟท์แวร์หรือตัวฮาร์ดแวร์ ที่จะทำให้กระทบกับการใช้งานเป็นอันให้ต้องหยุดชะงักชั่วครู่ หยุดชะงักไปพักใหญ่ แล้วกลับมาใช้งานได้ต่อ หรือค้างเอาดื้อๆ จนบางครั้งหรือหลายต่อหลายครั้ง ค้างแบบไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จนต้องกดปุ่มรีเซ็ตเครื่องใหม่สถานเดียวก็มี พาลให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดอยู่บ่อยครั้งประมาณนี้เป็นต้น วันนี้ผมก็จะมาแนะแนวทางสำหรับสาเหตุของปัญหา และวิธีการแก้ไขบางส่วนที่เพื่อนๆสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองให้ครับ ก็คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์มือใหม่หลายต่อหลายท่านเลยทีเดียว
เครื่องคอมช้า…ไม่ใช่เรื่องปกติ
คอมช้า คอมแฮงค์ เข้าเกมไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้า
อาการเครื่องช้า เครื่องแฮงก์ หรือ หยุดทำงานเอาดื้อๆของคอมพิวเตอร์ ที่ติดไวรัส ฮาร์ดดิสเต็ม แรมไม่พอใช้ ไฟล์ขยะเยอะ เป็นอาการที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต่างต้องเคยเจอกันอยู่บ้างในการทำงาน แม้ปัจจุบันจะมีระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย และสเปคคอมพิวเตอร์ที่เร็วแรงไปไกลแล้วก็ตาม
เพราะถ้าหากใช้งานเพียงอย่างเดียว แล้วขาดการดูแลเอาใจใส่ ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ไม่ต่างจากคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า เพียงแต่เป็นปัญหาในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องของฮาร์ดแวร์เสียทีเดียว แต่อาจจะเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์หรือไดรเวอร์และอะไรต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในวันนี้ผมจะเล่าถึงที่มาของอาการ คอมช้า คอมแฮงค์ คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดที่พบเห็นกันบ่อยๆ พร้อมแนวทางแก้ไข เพื่อช่วยลดอาการคอมค้าง เข้าเกมไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้า และความผิดปกติต่างๆ ให้หมดไป ซึ่งการเตรียมตัวก็มีเพียง การเตรียมข้อมูลให้พร้อมและใจเต็มร้อย พร้อมกับการได้ลองลงมือทำตามควบคู่กันไปด้วยเท่านั้น
ติดตั้งโปรแกรมเยอะเกินไป
เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์เกิด ทำงานช้า ระบบแฮงค์ คอมพิวเตอร์เปิดไม่ติด เข้าเกมไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้าที่เจอกันบ่อย ซึ่งมักเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ค่อยบันยะบันยังในการติดตั้งซอฟต์แวร์และเกมต่างๆ เพราะนอกจากจะใช้พื้นที่เยอะขึ้นแล้ว โปรแกรมบางตัวยังมีระบบอัพเดตอัตโนมัติหรือทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถรู้ได้เลย เว้นแต่ว่าต้องมาตรวจสอบกันอย่างจริงจัง ไหนจะเป็นโปรแกรมแบบเดโม แชร์แวร์ สารพัดที่บางคนชอบลงชอบลองใช้ สุดท้ายก็ไม่เคยได้เอาออกไป ทิ้งเอาไว้เป็นขยะอยู่ในระบบ แล้วค่อยๆ กินพื้นที่ไปทีละน้อย สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้คอมพิวเตอร์เกิดปัญหา คอมช้า คอมแฮงค์ได้มากทีเดียว
ดังรูป ยังถือว่าน้อย เพราะมีแค่โปรแกรมสามัญพื้นฐานที่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่สำหรับบางท่านที่ไม่ได้ทำการติดตั้งโปรแกรมด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะจ้างช่างซ่อมติดตั้งโปรแกรมมาให้ ก็อาจจะระบุช่างให้ติดตั้งแทบจะทุกโปรแกรมเลยก็ว่าได้ ซึ่งบางโปรแกรมแทบไม่ได้ใช้งาน ก็ขอให้ได้ลงไปก่อน ก็จะเป็นการเสียพื้นที่ไปโดยใช่เหตุ
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวัง ก็คือ ในส่วนของ Startupหรือโปรแกรมเริ่มต้นที่เปิดขึ้นมาพร้อมกับระบบวินโดวส์ โปรแกรมเหล่านี้จะถูกสั่งให้ทำงานขึ้นมาพร้อมกับระบบเมื่อเปิดเครื่องใช้งานและยังสแตนบายให้รอทำงานหรือบางครั้งก็เริ่มทำงานพร้อมกับระบบปฏิบัติการด้วย
โดยเฉพาะในส่วนของ System Tray เนี่ย หลายๆเครื่องของผู้ใช้งาน ถ้าลองคลิกดูในส่วนนี้ จะพบว่ามีโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ หรือรอให้เรียกใช้งานเยอะแยะไปหมด ซึ่งก็เป็นจุดสำคัญให้เกิดกระบวนการบูตเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows และเรียกใช้งานโปรแกรมที่ต้องการได้ช้ากว่าปกติมาก
ก็ไม่น่าแปลกที่ทำไมบางครั้งเราใช้ระยะเวลาในการเปิดเครื่องนานขึ้น หรือเปิดโปรแกรมช้ามากๆ บางทีเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้ว กว่าจะใช้งานได้ก็รอกันจนดื่มกาแฟไปหมดแก้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นก็หมายถึง โปรแกรมเริ่มต้นเหล่านี้จะจับจองพื้นที่แรม (RAM) ไป และต้องอาศัยการประมวลผลของซีพียูที่มากขึ้นจึงทำให้ คอมช้า คอมแฮงค์ ได้ไม่ยาก
(RAM) แรมมีน้อย ไม่พอใช้
ปัญหานี้เป็นที่เข้าใจสำหรับคนที่ใช้เครื่องมายาวนาน แล้วอยู่ๆ ก็ต้องมาเจอปัญหา คอมค้าง ระบบแฮงค์ เข้าเกมไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้า เพราะบางทีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ก็รองรับแรม (RAM) ได้เพียงเท่านี้หรือไม่มีช่องเพิ่มหรือหาแรม (RAM) ที่ใช้ร่วมกันได้ยาก ประเด็นเหล่านี้ก็กลายมาเป็นปัญหาสำคัญได้ ถึงแม้ว่าระบบปฏิบัติการจะมีสเปคขั้นต่ำ (Minimal) ว่าแรมเท่านี้ก็ใช้งานได้ แต่เมื่อต้องติดตั้งโปรแกรมและใช้งานจริง ก็กลายเป็นว่าไม่พอต่อการใช้งาน เมื่อระบบก็ต้องการใช้แรม และโปรแกรมที่ทำงานอยู่ก็ต้องใช้แรม จึงมีการดึงหรือจับจองพื้นที่ในการทำงานมากขึ้น แรมที่มีอยู่ก็ไม่พอ อาการที่เห็นได้ก็คือ เปิดโปรแกรมช้าลง ทำงานช้าลงและสุดท้ายเมื่อโหลดโปรแกรมขึ้นมาเยอะๆเข้า ก็จะเกิดอาการ คอมพิวเตอร์ทำงานได้ช้า คอมแฮงค์ เป็นปกติ
ไวรัส มัลแวร์ แอบมาแชร์ทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์
เป็นมูลเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิด เครื่องช้า ระบบแฮงค์ เข้าเกมไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้า เพราะไม่ว่าจะเป็น ไวรัส (Virus), โทรจัน (Trojan), มัลแวร์ (Malware) หรือแอดแวร์ (Adware) ล้วนแต่เป็นตัวที่คอยดึงทรัพยากรเครื่องไปใช้อยู่ตลอดเวลา บางตัวก็ใช้ในการรันตัวเองให้ทำงานตามที่ถูกเขียนมาหรืออย่างโทรจันที่เข้ามาแฝง ก็ใช้ทรัพยากรเพื่อเก็บและส่งข้อมูลแบบลับๆ หรือจะเป็นแอดแวร์ ก็จะเปิดหน้าต่างเว็บขึ้นมารบกวนการทำงานของเบราว์เซอร์อยู่ทุกครั้ง แบบนี้เป็นอาการโดยตรง ที่ทำให้ คอมช้า คอมแฮงค์ และยังมีผลกระทบทางอ้อมคือ เมื่อไวรัสเริ่มทำงาน แอนตี้ไวรัสก็จะต้องรันขึ้นมาเพื่อตรวจจับ นั่นก็หมายถึงการที่ต้องดึงทรัพยากรเครื่องไปเพิ่มขึ้นจากการใช้งานปกติ ซึ่งหากอยู่ในภาวะที่เครื่องมีการใช้งานมากอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำงานหนักขึ้น ทำให้โอกาสที่จะทำให้เกิดอาการ คอมช้า คอมแฮงค์ จะสูงขึ้นเช่นกัน
CPU ทำงาน 100%
แรมโดนดึงไปใช้จนเกือบหมด
ฮาร์ดดิสก์มีปัญหา
สาเหตุนี้เกิดขึ้นได้กับฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)ที่ใช้งานมานานและฮาร์ดดิสก์บนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่ไม่ค่อยได้รับการเอาใจใส่ดูแล ซึ่งหากเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าก็ไม่ว่ากัน เพราะทำงานมานานมากแล้ว บางทีก็เกิด Bad sector หรือกลไกการทำงานเริ่มลดประสิทธิภาพลงไป การหมุนแบบผิดปกติหรือหัวอ่านเริ่มชำรุด ก็เป็นเหตุให้ เครื่องช้า ระบบแฮงค์ ได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ ก็มีโอกาสเป็นไปได้จากฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้คุณภาพหรือเกิดจากการไม่ดูแลของผู้ใช้ อย่างเช่น มีการเคลื่อนย้ายระหว่างที่เครื่องทำงานบ่อย มีการกระแทกหรือเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น ทำตัวเครื่องหล่นหรือใช้งานโน๊ตบุ๊ตด้วยการถอดแบตฯ ออก แล้วต่อไฟตรง เมื่อปลั๊กหลุดก็อาจทำให้ฮาร์ดดิสก์ที่กำลังทำงานอยู่เกิดปัญหาได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์มีปัญหา จนนำมาสู่อาการ คอมช้า คอมแฮงค์ เข้าเกมไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้าได้เช่นกัน
ไฟล์ขยะที่เกิดจากการใช้งานโปรแกรม (Temp file, cookies, Dump file)
ไฟล์ขยะคืออะไร…ทำไมถึงเรียกว่าไฟล์ขยะ ไฟล์ขยะไม่มีประโยชน์เลยจริงหรือไม่ ไฟล์ขยะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นมาทำไม วันนี้เราจะมาแยกประเภทของไฟล์ขยะกัน
- ไฟล์ขยะที่เกิดจากการ”ติดตั้ง” (Install) ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งวินโดวส์ ติดตั้งโปรแกรมต่างๆ การอัพเดทโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ต่างๆ กระบวนการเหล่านี้จะทำให้เกิดไฟล์ขยะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าการอัพเดทหรือลงโปรแกรมต่างๆ วินโดวส์จะแตกและแยก (extract file) ไฟล์นั้นๆออกมาแล้วค่อยติดตั้งมันลงไปในฮาร์ดดิสก์ กระบวนการนี้จะทำให้เกิดไฟล์ที่เหลือทิ้ง เช่น .temp .old .bak ซึ่งไฟล์ที่เหลือทิ้งเหล่านี้คอมพิวเตอร์ของเราไม่ต้องการใช้มันอีกแล้ว
- ไฟล์ขยะที่หลงเหลือจากการที่เราลบโปรแกรม (uninstall) ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เกิดจากการถอนการติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น ค่า Registry ที่ยังไม่ถูกแก้ไขหรือตัวแปรที่เพิ่มหรือลดค่าภายในคอมพิวเตอร์ของเรานั้นเอง ไฟล์ขยะอื่นๆเช่น .temp .bak .chk .htt และ prefetch file เป็นต้น ซึ่งไฟล์เหล่านี้คอมพิวเตอร์ของท่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไป
- ไฟล์ขยะที่ทุกท่านน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด ไฟล์ที่เกิดจากการเล่นอินเตอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น cookies .temp .htt cached เป็นต้น ไฟล์เหล่านี้ต่างจากไฟล์ที่บอกข้างต้นเพราะว่าไฟล์ขยะเหล่านี้ที่จริงมีประโยชน์ เวลาท่านเข้าเว็บไซต์ต่างๆหน้าตาของมันไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ แฟรช และปุ่มต่างๆ จะถูกเก็บไว้เป็น temp file เพื่อที่จะทำให้เราเข้าเว็บไซต์นั้นๆได้เร็วขึ้น temp file ไม่ได้เกิดจากเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว โปรแกรมต่างๆและซอฟต์แวร์ต่างๆก็สร้าง temp file ขึ้นมาเช่นกัน นอกจากนี้เวลาท่านดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆจากอินเตอร์เน็ต แต่ว่าเน็ตตัดหรือกดยกเลิก ไฟล์เหล่านั้นก็จะเหลือเป็นก้อนไฟล์ขยะที่ไม่สามารถใช้งานได้
- Restore Point หรือ Windows Protection Feature ระบบนี้จะเป็นตัวป้องกันความเสียหายรุนแรงที่อาจเกิดกับคอมพิวเตอร์ของท่าน เช่นการที่คอมพิวเตอร์ของท่านเกิดระบบล้มเหลวหรือจอฟ้า (blue screen) ยิ่งถ้าฮาร์ดดิสก์มีขนาดใหญ่มากแค่ไหน system restore ก็จะกันที่ไว้มากยิ่งขึ้น คอมพิวเตอร์จะกู้คืนข้อมูลต่างๆจาก Restore Point ที่ใกล้ที่สุด ซึ่ง Restore Point เหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากแต่ว่าเราไม่ได้มีแค่ Restore Point เพียงจุดเดียว ดังนั้น Restore Point จึงใช้พื้นที่ไปเยอะทีเดียว
ไฟล์ขยะที่จริงก็ไม่ใช่ขยะอย่างที่ทุกท่านคิด ไฟล์ขยะเหล่านี้ถูกสร้างจากระบบเพื่อทำให้เราสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ของเราให้รวดเร็วมากขึ้น สะดวกมากขึ้น แต่ถ้าหากว่าท่านใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมมาเป็นเวลานานโดยที่ไม่มีการลบไฟล์เหล่านี้ทิ้ง ไฟล์เหล่านี้ก็จะถูกสร้างและทับถมฮาร์ดดิสก์ของท่านไปเรื่อยๆ ในบางครั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านอาจจะมีไฟล์ขยะเหล่านี้มากกว่า 10 GB ก็เป็นได้
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า โฟลเดอร์สำหรับจัดเก็บไฟล์ขยะ ถูกกักเก็บเอาไว้ที่ไหน
วิธีการเข้าถึงโฟลเดอร์ไฟล์ขยะเบื้องต้น เพื่อนๆสามารถเข้าไปได้โดยการ กดปุ่มคีย์ลัด Windows + R เพื่อเรียกใช้งานหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์คำสั่ง %Temp% กด Enter หรือ OK
หน้าต่างสำหรับกักเก็บไฟล์ Temp ก็จะถูกเปิดขึ้นมา
ดังรูปตัวอย่าง จะมีขนาดการกักเก็บไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ Temp น้อยมาก ก็เพราะเครื่องนี้ผมได้ทำการลบไฟล์ขยะอยู่เป็นประจำนั่นเอง แต่สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆท่าน ที่ใช้งานกันเป็นแรมเดือน แรมปี ถ้าไม่เคยเข้ามาในส่วนนี้เลย ก็จะพบกับการกักเก็บขนาดไฟล์ที่เยอะกว่านี้ อาจจะมากเป็น GB เลยก็ว่าได้ และระยะเวลาในการลบก็จะใช้เวลานานเช่นเดียวกัน เผลอๆลบไม่ออกอีกต่างหาก เพราะโปรแกรมบางตัวต้องอาศัยไฟล์ที่อยู่ภายในนี้ทำงานร่วมกันด้วยนั่นเอง
เมื่อใช้คอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน, เข้าเว็บไซต์, เล่นเกมส์ หรืองานด้านอื่นๆไปสักระยะหนึ่ง ขนาดพื้นที่จะใหญ่ขึ้นๆ จนเต็มไปในที่สุด และระบบการทำงานโดยรวมก็จะช้าลง
เราได้ทำความรู้จักกับปัญหาหลักๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำให้เกิดอาการ คอมช้า คอมแฮงค์ เข้าเกม ไม่ได้ เปิดโปรแกรมช้า ทั้งนี้เมื่อท่านพบปัญหา ย่อมมีวิธีการหลายๆอย่างที่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ การใช้โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์ก็เป็นทางเลือกที่ง่ายอย่างหนึ่ง โดยในปัจจุบันนี้มีโปรแกรมประเภทนี้ให้เลือกเช่น BeeDoctor, SpeedUpMyPC, TuneUp Utilities ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน
Advertorial
- BeeDoctor: http://beedoctor.in.th/thai/download.php?ch=vp
- SpeedUpMyPC: http://www.uniblue.com/product/pc/speedupmypc/
- TuneUp Utilities: http://www.tune-up.com