ในงานคอมพิวเท็กซ์ 2009 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน นายฌอน มาโลนี่ ผู้บริหารของอินเทล คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงความมุ่งมั่นของอินเทลที่จะพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโมบายล์และกลุ่มการสื่อสารไร้สาย มีโอกาสเติบโตต่อไปในอนาคต
ในช่วงกล่าวบรรยายเปิดงาน คอมพิวเท็กซ์ ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก นายฌอน มาโลนี่ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัทอินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้แนะนำโมบายล์โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ในตระกูลอัลตร้า โลว์ โวลเทจ (ultra-low voltage) ที่ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งโมบายล์โปรเซสเซอร์รุ่นนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กสามารถออกแบบโน้ตบุ๊กที่มีน้ำหนักเบา มีดีไซน์ที่โดดเด่นมากขึ้น และมีความบางเป็นพิเศษโดยมีความหนาไม่เกิน 1 นิ้ว ซึ่งจะทำให้มีโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ ทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้นในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมอีกด้วย
นอกจากนั้นมาโลนี่ยังได้ทำการสาธิตประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า ไพน์ เทรล (Pine Trail) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอินเทล™ อะตอม™ โปรเซสเซอร์ (Intel® Atom™ processor) รุ่นต่อไปอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกอีกด้วย แพลตฟอร์มใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับเน็ตบุ๊กและเน็ตท้อปโดยเฉพาะ โดยจะเป็นการผสานการทำงานของอุปกรณ์ราคาประหยัดเข้ากับการรองรับเครือข่ายระบบสื่อสารบอร์ดแบนด์อย่างเช่น ไวแมกซ์ ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีของผู้คนเป็นจำนวนมากได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้ว ภายในปลายปีนี้อีกด้วยอินเทลยังมีแผนที่จะเปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่ สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปท้อปรุ่นเมนสตรีมเพื่อรองรับการทำงานแบบ high definition (HD) ได้อีกด้วย
ในช่วงที่ทำการบรรยาย มาโลนี่ได้กล่าวยินดีที่ประเทศไต้หวันสามารถจำหน่ายเมนบอร์ดที่ใช้โปรเซสเซอร์จากอินเทลได้มากกว่า 1 พันล้านชิ้นแล้ว1 เขาแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไต้หวันได้กลายเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรม” สำหรับอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลกไปแล้ว รวมทั้งยังกล่าวถึงความท้าท้ายของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไต้หวัน ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ ไปสร้างความต้องการของตลาดและผลักดันให้เกิดการเติบโตต่อไปในอนาคตด้วย
นอกจากนั้นอินเทลได้วางแผนที่จะวางจำหน่ายโปรเซสเซอร์ ลินน์ฟิลด์ (Lynnfield) และ คลาร์คส์ฟิลด์ (Clarksfield) ภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อีกด้วย และหลังจากนั้นอินเทลยังเตรียมที่จะวางจำหน่ายโปรเซสเซอร์ เวสท์เมียร์ (Westmere) ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 32 นาโนเมตร และเทคโนโลยี hi-k metal gate ที่ใช้วัสดุ hafnium เป็นรุ่นที่สองอีกด้วย มาโลนี่กล่าวว่าด้วยเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีจะมีโอกาสแทบไม่จำกัดในการสร้าง พัฒนา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่ตลาดทั่วโลก
มาโลนี่กล่าวว่า “การเติบโตทางธุรกิจมักเกิดจากการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม ในปีนี้เรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยี hi-k metal gate รุ่นที่สอง บวกกับซอฟต์แวร์ใหม่ และการพัฒนาเครือข่ายไวแมกซ์ ที่สามารถนำไปใช้งานในวงกว้างรออยู่แล้ว”
อินเทล™ อะตอม™ โปรเซสเซอร์ เป็นตัวอย่างหนึ่งของโอกาสในการเจริญเติบโตทางธุรกิจที่กล่าวมาข้างต้นคือ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่อินเทลเริ่มจำหน่ายโปรเซสเซอร์สำหรับเน็ตบุ๊ก ได้มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เกิดขึ้นใหม่มากกว่า 75 รุ่น ในตลาดในขณะนี้ และยังมียอดจำหน่ายที่สูงถึงกว่า 10 ล้านเครื่องอีกด้วย เน็ตบุ๊กเป็นอุปกรณ์ในกลุ่มโมบายล์ขนาดเล็กกะทัดรัดที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานพื้นฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต อาทิเช่นการท่องเว็บ การฟังเพลง การรับส่งอีเมล และการดูวิดีโอเป็นต้น อุปกรณ์กลุ่มนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในขั้นพื้นฐานหรือผู้ใช้งานเป็นครั้งแรก รวมทั้งผู้ใช้ที่ต้องการพีซีที่สามารถพกพาได้สะดวกเสริมจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถใช้เน็ตบุ๊กเพื่อเล่นเกมออนไลน์ในระดับพื้นฐาน เชื่อมต่อกับ social network และการพูดคุยโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย
ในขณะที่ทำการสาธิตประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า ไพน์ เทรลบนเน็ตบุ๊ก มาโลนี่กล่าวว่าโปรเซสเซอร์รุ่นนี้จะทำให้เน็ตบุ๊กมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดความร้อนในขณะทำงาน และมีอัตราการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยลดลง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรีให้ยาวนานมากขึ้น นอกจากนั้นความถี่สัญญาณนาฬิการะบบกราฟิกหลักก็มีความเร็วเพิ่มสูงขึ้น เพื่อช่วยให้การแสดงผลภาพดีขึ้นไปด้วย แพลตฟอร์ม ไพน์ เทรลเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ชิป 2 ตัว เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มปัจจุบันที่ใช้ชิป 3 ตัว และมีระบบกราฟิกและเมมโมรีคอนโทรลเลอร์ที่รวมอยู่กับโปรเซสเซอร์ ทำให้มีขนาดเล็กลง และช่วยให้ผู้ผลิตออกแบบเน็ตบุ๊กที่เล็กลง บางลง และมีราคาถูกลงกว่าเดิม
นอกจากนั้นมาโลนี่ยังได้สาธิตระบบปฏิบัติการ Moblin เวอร์ชัน 2.0 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาสำหรับเน็ตบุ๊กโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติเด่นคือเป็น User Interface ชนิดใหม่ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยให้ตอบสนองได้เร็วขึ้น แถมยังบูธเครื่องได้รวดเร็วกว่าเดิมอีกด้วย
เพื่อเป็นการสาธิตการใช้งานที่ง่ายและสนุกสนานของเน็ตบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์ของอินเทล เด็กๆ 5 คนมีโอกาสขึ้นเวทีร่วมกับมาโลนี่เพื่อเล่นเกมล่าสมบัติผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมาโลนี่กล่าวว่า เด็กๆ หรือผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์เครื่องที่สองหรือสามในบ้านเรือนทั่วไปถือเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่จะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วแน่นอน
ภายในงานนี้มาโลนี่ยังได้เชิญมูลี่ อีเดน รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์โมบายล์ของอินเทล ขึ้นมาบนเวทีเพื่อแนะนำโน้ตบุ๊กรุ่นล่าสุดหลายรุ่น รวมทั้งโน้ตบุ๊กในรุ่น ultra-thin อีกด้วย ซึ่งอินเทลเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะเป็นที่นิยมและสร้างรายได้ให้แก่บริษัทได้อย่างมากเช่นกัน
โน้ตบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่น อัลตร้า โลว โวลเทจ (ultra-low voltage) ของอินเทลนี้ จะมีความหนาไม่ถึงหนึ่งนิ้ว มีน้ำหนักน้อยกว่า 1.5 กก. และสามารถติดตั้งระบบสื่อสารไร้สายอย่าง Intel MyWiFi หรือ WiMAX ลงไปได้ด้วย ผู้ใช้งานที่มองหาโน้ตบุ๊กแบบบางและเบา ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเป็นการผสมผสานระหว่างพื้นที่ใช้สอย น้ำหนัก ประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน และราคาอย่างลงตัว อินเทลได้จำหน่ายโปรเซสเซอร์รุ่น อัลตร้า โลว โวลเทจมานานกว่า 8 ปีแล้ว และเมื่อปีก่อนทางบริษัทได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมเพื่อใช้กับโน้ตบุ๊กรุ่น ultra-thin ซึ่งบางมากจนกระทั่งสามารถใส่ลงในซองจดหมายได้ โน้ตบุ๊กรุ่น ultra-thin นี้มีราคาเริ่มต้นที่ 499 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งจัดว่าเป็นราคาไม่สูงเหมาะสำหรับผู้ใช้ในระดับเมนสตรีมทั่วไป
มาโลนี่ได้พูดถึงอนาคตของคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปว่า “ชิปเซ็ตรุ่นต่อไปของเราจะนำเอาประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการผลิตแบบ 32 นาโนเมตร มาสู่คอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปในรุ่นเมนสตรีม ซึ่งผลิตภัณฑ์เช่น คลาร์คเดล (Clarkdale) และ อาร์รานเดล (Arrandale) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเดสก์ท้อปคอมพิวเตอร์อย่างมาก”
มาโลนี่กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวก็ตาม แต่ตลาดวิดีโอแบบไฮเดฟินิชั่น (HD) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และในความเป็นจริง HDMI ก็เป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เฟซ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุดสำหรับตลาดไฮเดฟินิชั่น และคาดว่าจะมีอัตราเติบโตถึงร้อยละ 23 ต่อปีไปจนถึงปี 2012 โปรเซสเซอร์รุ่นถัดไปของอินเทลที่ชื่อ ลินน์ฟิลด์ จะช่วยให้คอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปรุ่นเมนสตรีมแสดงผลแบบไฮเดฟินิชั่นได้ ซึ่งโปรเซสเซอร์รุ่นนี้จะเริ่มจำหน่ายภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มาโลนี่กล่าวว่าเมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ระดับเมนสตรีมของปีก่อนอย่างเพนริน (Penryn) แล้ว ลินน์ฟิลด์ จะช่วยให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ได้รับประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 ทีเดียว2
อีกหนึ่งประเด็นที่มีความสำคัฐมากคือ การลดช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยีของประชาชน ซึ่งมีประชาชนกว่า 5 พันล้านคนทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึง หรือใช้คอมพิวเตอร์มาก่อน มาโลนี่เชื่อว่าวิธีการที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหานี้ก็คือ การแก้ไขปัญหาเรื่องต้นทุนและระบบการเชื่อมต่อ มาโลนี่ได้เปิดเผยโครงการที่มีชื่อว่า “Project Blue” ซึ่งอินเทลกำลังดำเนินการในอินเดีย โดยเป็นการผสานเน็ตบุ๊กราคาถูกซึ่งใช้โปรเซสเซอร์อินเทลและระบบเครือข่าย WiMAX เข้าด้วยกัน