แฮ็กแบนด์วิดธ์ฮาร์ดดิสต์ให้มีความเร็วทะลุ 1 GB!!

0
3753

สำหรับวิธีนี้ขอแนะนำให้ใช้กับเครื่องของท่านที่มีความจุของแรมตั้งแต่ 512 MB ขึ้นไปนะครับ ซึ่งการจะทำให้การอ่าน-เขียนข้อมูลในฮาร์ดดิสต์มีแบนด์วิดธ์สูงขึ้น เราจะต้องเข้าไปปรับแต่งค่า 2 ตัวในรีจิสตรีดังนี้

+ DisablePagingExecutive

สร้าง Registry ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อให้ Kernel ของวินโดวส์ทำ Context Switch ลงบนแรมเท่านั้น การทำ Context Switch คือการที่โปรเซสบันทึกข้อมูลสถานะของตัวเองเก็บไว้ ในเวลาที่เราเปิดหลายๆโปรแกรมพร้อมๆกัน โปรแกรมที่ไม่ได้ active อยู่จะบันทึกสถานะต่างๆของตัวเองไว้ก่อนเพื่อที่ว่าเวลาเราสลับไปใช้โปรแกรมนั้นๆ จะได้สามารถโหลดได้อย่างรวดเร็วขึ้นนั่นเอง โดยปกติแล้วโปรแกรมที่ทำ Context Switch จะบันทึกข้อมูลสถานะลงบนหน่วยความจำเสมือนบนดิสต์หรือที่เราเรียกว่า Page File นั่นเอง แต่ด้วยการสร้าง registry ตัวนี้ขึ้นมาจะทำให้โปรเซสต่างๆของ Kernel ทำ Context Switch ลงบนแรมซึ่งสามารถอ่าน-เขียนได้เร็วกว่าบนดิสต์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฮาร์ดดิสต์นั้นถูกเรียกใช้งานในขั้นตอนการโปรเซสน้อยลง และทำให้สามารถไปทำงานหลักที่เกี่ยวกับ Input และ Output ได้มากขึ้นเพราะในการใช้งานนั้น เกิด Context Switch ขึ้นตลอดเวลา

ขั้นตอนการเรียกใช้งาน

1.คลิก Start > Run > พิมพ์ Regedit

2.เข้าไปที่โฟลเดอร์คีย์ HKEY_LOCAL_MACHINE > SYSTEM > CurrentControlSet > Control > Session Manager > Memory Management คลิกขวาที่โฟลเดอร์คีย์ Memory Management แล้วเลือก New > DWORD Value แล้วตั้งชื่อเป็น DisablePagingExecutive

68101

3.ดับเบิลคลิกที่คีย์ DisablePagingExecutive อีกครั้ง เพื่อกำหนดค่าในช่อง Value data: ให้เป็น 1 ครับ

68102

คีย์ต่อมา

+ LargeSystemCache

สำหรับ Registry ตัวนี้จะทำให้วินโดวส์บันทึกข้อมูลที่อ่านจากฮาร์ดดิสต์ลงบนแรมก่อนเพื่อที่ว่าในกรณีที่ต้องการใช้ข้อมูลดังกล่าวอีกจะได้ไม่ต้องไปอ่านจากฮาร์ดดิสต์ใหม่นั่นเอง เหตุนี้จึงทำให้ฮาร์ดดิสต์ลดภาระการทำงานซ้ำๆกับข้อมูลชุดเดิมๆได้นั่นเอง และไม่ต้องกังวลไปว่ามันจะไปกินแรมจนหมด เพราะเราจะเสียแรมไปเป็น cache ในกระบวนการนี้ไม่เกิน 4 MB เท่านั้นครับ

4.ที่โฟลเดอร์คีย์เดียวกัน HKEY_LOCAL_MACHINE > SYSTEM > CurrentControlSet > Control > Session Manager > Memory Management คลิกขวาที่โฟลเดอร์คีย์ Memory Management แล้วเลือก New > DWORD Value แล้วตั้งชื่อเป็น LargeSystemCache

5.ดับเบิลคลิกที่คีย์ LargeSystemCache อีกครั้ง เพื่อกำหนดค่าในช่อง Value data: ให้เป็น 1 ด้วยครับ

68103



บทความก่อนหน้านี้12 วิธีกับการดูแลรักษา Notebook ให้อยู่กับเราได้นานๆ
บทความถัดไปเทคนิค Hack Password ไฟล์ต่างๆจาก WinZip และ WinRAR
varietypc
ส่วนตัวชื่นชอบการเขียน, พัฒนาซอร์สโค้ดเว็บไซต์เป็นชีวิตจิตใจ ตลอดจนถึงอัพเดตเนื้อหาทริค, เทคนิคคอมพิวเตอร์ และข่าวสารเทคโนโลยีทุกอย่าง นอกเหนือจากการเคลียร์งานหลักเสร็จเรียบร้อย ก็จะมาทิ้งชีวิตให้กับ VarietyPC.net กันต่อแทบทุกวัน แต่บางครั้งอาจจะไม่ได้อัพเดตเนื้อหา เพราะต้องพัฒนาระบบการจัดการ Backend หลังบ้านไปด้วยและมีคนทำเพียงคนเดียว แม้จะไม่ได้รับผลตอบแทนจากแหล่งใดๆก็ตาม ตอนนี้เว็บไซต์เล็กๆแห่งนี้ก็ใกล้ย่างเข้าปีที่ 13 แล้วครับ และจะยังคงอยู่แชร์ความรู้กับพี่น้อง เพื่อนๆคนไทย และทั่วโลกตลอดไปครับ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับข่าว/บทความนี้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่