ผู้ใช้งาน Windows 7 อาจจะไม่เคยสังเกตว่า เมื่อมีการใช้งานระบบไปสักระยะ พื้นที่บางส่วนบนฮาร์ดดิสต์จะหายไป เนื่องจากเมื่อมีการเรียกเปิดใช้งานไฟล์, โฟลเดอร์, หรือการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ระบบจะมีการบันทึกรายชื่อไฟล์ที่เราเปิดขึ้นมาใช้งานเก็บเอาไว้ที่โฟลเดอร์ Recent Documents และหากมีการใช้งานนานเข้าๆ ไฟล์ต่างๆซึ่งเป็นไฟล์ขยะก็จะมีมากขึ้น และพื้นที่บนฮาร์ดดิสต์ก็จะหายไปเรื่อยๆอีกด้วย
## การลบไฟล์ขยะเหล่านี้ สามารถนำเครื่องมือฟรีแวร์อย่าง CCleaner มาช่วยงานก็ได้ แต่สำหรับบางท่านที่ไม่อยากใช้โปรแกรมก็สามารถลบด้วยตัวเองได้ดังนี้
วิธีที่ 1 ด้วยการเข้าไปลบในโฟลเดอร์ Recent
โดยคลิก Start -> ที่ช่อง Search box พิมพ์คำสั่ง
“%appdata%\Microsoft\Windows\Recent” -> Enter (หรือคลิกที่ชอร์ตคัท Recent)
แล้วหน้าต่าง Recent Items จะถูกเปิดขึ้นมา ตรงนี้ ถ้าหากใช้งานระบบไปนานๆและไม่เคยทำการตรวจสอบมาก่อน จะพบว่าพื้นที่ถูกเก็บไฟล์ขยะเอาไว้เป็น MB หรืออาจจะหายไปเป็น GB เลยครับ (จากรูปจะเป็นระบบที่เพิ่งมีการลง Windows ใหม่ได้ประมาณ 3 วัน เพราะพื้นที่ถูกกินไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น)
ดังนั้น ถ้าหากต้องการลบไฟล์ขยะเหล่านี้ทิ้ง เพื่อคืนพื้นที่ว่างให้ฮาร์ดดิสต์ก็เพียงแค่กดปุ่ม Ctrl + A เพื่อเลือกไฟล์ทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Shift + Delete เพื่อลบ ก็เป็นอันเรียบร้อย
วิธีที่ 2 ลบผ่านโปรแกรมช่วยเหลืออย่าง Group Policy Editor (Gpedit.msc) (ปิดการทำงานของ Recent Documents แบบถาวร)
โดยคลิก Start -> ที่ช่อง Search box พิมพ์คำสั่ง Gpedit.msc -> Enter
เข้าไปที่โฟลเดอร์ย่อย User Configuration -> Administrative Templates -> Start Menu and Taskbar
แล้วดับเบิ้ลคลิกเปิดหัวข้อ Clear history of recently opened documents on exit ขึ้นมา
ให้เลือกหัวข้อเป็น Enabled -> คลิก Apply -> OK ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ