สำหรับท่านใดที่เคยเจอหรือครั้งต่อไปหากเจอปัญหา NTLDR is missing (Press Ctrl+Alt+Del to restart) ทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งานระบบ Windows XP ต่อไปได้ ไม่สามารถแบ็คอัพไฟล์งานออกมาได้ และไม่ทราบถึงขั้นตอนการแบ็คอัพไฟล์งาน หากเจอปัญหาระบบบูตล่มกลางครัน ลองเอาขั้นตอนการแก้ปัญหาวิธีนี้ไปใช้งานกันดูนะครับ

สำหรับบทความ 9 ทริคกับขั้นตอนแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์บนเน็ตเวิร์ค Windows 10 ที่ทางเว็บ VarietyPC.net ได้นำมาแชร์ความรู้กันนี้จะเหมาะสำหรับเพื่อนๆมือใหม่ที่ใช้คอมพิวเตอร์ภายในบ้านมากกว่า 1 เครื่อง, ใช้คอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน, องค์กรต่างๆ และต้องการใช้ไฟล์งาน, ซอฟต์แวร์, ไฟล์จิปาถะหรือโฟลเดอร์ร่วมกันบนระบบเน็ตเวิร์ค (วงแลน) ส่วนตัว, เน็ตเวิร์คสาธารณะด้วย workgroup หรือโดเมนของเราได้โดยที่ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลพวกแฟลชไดรฟ์ต่างๆไปเสียบยังคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆหรือเดินไปให้เสียเวลา

ตามปกติตัวอักษรไดรฟ์ (Drive Letters) ในวินโดวส์ จะถูกกำหนดไว้ให้อยู่หลังชื่อไดรฟ์เสมอ ดังนั้นถ้าท่านใดต้องการให้เกิดความแตกต่างในการใช้งาน เราสามารถแก้ไขดัดแปลงให้ตัวอักษรไดรฟ์อยู่หน้าชื่อไดรฟ์ได้ไม่ยากครับ

สำหรับวันนี้กับบทความเล็กๆอีกหนึ่งตัวก็เป็นส่วนของการเพิ่มหัวข้อคำ สั่ง Take Ownership เอาไว้ที่ Context Menu หรือเมนูคลิกขวา เอาไว้ใช้งานกันบน Windows 8 หรือ Windows 8.1 นั่นเอง ก็จะเป็นพื้นฐานกับอีกหลายๆบทความในภายภาคหน้าด้วยนั่นเองครับ สำหรับเจ้าหัวข้อคำสั่ง Take Ownership เนี่ย หลักๆก็จะเอาไว้สำหรับปลดล็อคไฟล์, โฟลเดอร์ รวมจนถึงไดรฟ์ที่ล็อคเอาไว้ให้ใช้งานได้กับ Administrator User หรือชื่อบัญชีที่เราๆท่านๆใช้งานกันโดยทั่วไปนั่นเอง

ใน Windows Vista จะไม่โชว์ปุ่ม Run Command ขึ้นมาให้ใช้งานเหมือนใน Windows ME, XP มันจะถูกซ่อนเอาไว้ หากต้องการใช้งานปุ่ม Run Command ก็สามารถใช้คีย์ลัด Windows+R ก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ปุ่มนี้โชว์ที่ Start Menu ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ ....

สำหรับวิธีการเรียกคืนไอค่อน This PC กลับมาแสดงไว้บนหน้าจอเดสก์ทอป เพื่อจะได้เรียกเข้าไปจัดการกับไฟล์, โฟลเดอร์, หรือไดรฟ์ ให้ใช้งานได้ง่าย พอดีวันนี้ได้ลองติดตั้ง Windows 10 Build 15019 เสร็จเรียบร้อย ความที่เคยชินกับการดึงเอาไอคอน This PC มาไว้บนเดสก์ทอปแบบเดิม ก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร ก็เข้าไปตามขั้นตอนที่เคยทำอยู่ตามปกติ โดยปกติจะอยู่ที่ Settings -> Personalization -> Themes -> Go to desktop icon settings

สำหรับวิธีตั้งค่าปุ่มสลับภาษา หรือ Grave Accent บน Windows 11 โดยภายหลังจากที่ผู้ใช้งานได้ทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ก็จะยังมีการตั้งค่าอีกบางส่วนที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องปรับตั้งค่าด้วยตนเอง และหนึ่งในการตั้งค่านั้นก็คือ การตั้งค่าปุ่มสลับภาษา หรือ ปุ่ม Grave Accent สำหรับ Windows 11

ด้วยค่ามาตรฐาน (Default) ที่มีมาให้กับปุ่มสวิตช์เปิด/ปิดและใช้งานควบคู่กับระบบ Windows 8 จะเป็นปุ่ม Shut down แต่สำหรับการใช้งานทั่วๆไป งานเบาๆที่ไม่ค่อยได้เน้นทางด้านงานหนักๆ งานตัดต่อ หรืองานเรนเดอร์ ที่ต้องพึ่งพื้นที่หน่วยความจำเป็นหลัก เราก็ปรับแต่งปุ่มที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มปิดเครื่องหรือ Shut down ให้เปลี่ยนเป็น Hibernate แทนที่ ก็จะเป็นข้อดีที่จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้กับการปิดและเปิดเครื่องได้ไม่น้อยครับ

ปุ่ม Change a password ซึ่งชื่อก็บอกตามตัวอยู่แล้ว ก็เอาไว้เปลี่ยนแปลงรหัสผ่าน จะมีติดมากับ Windows 8.1 หรือ Windows 7 ให้อยู่แล้ว แต่สำหรับ Windows ที่มีการปรับแต่งมาบางรุ่น จะตัดฟังก์ชั่นตรงส่วนนี้ออกไป จะมีผลต่อความต้องการเรียกใช้หน้าจอเปลี่ยนแปลงพาสเวิร์ดของผู้ใช้งานนั้นๆผ่านคีย์ลัด CTRL+ALT+DEL

ถ้าหากท่านเป็นผู้หนึ่งที่ติดตั้งและใช้งาน Windows 7 อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะใช้ในการทำงาน หรือเล่นเกมส์ต่างๆ แต่ไม่ค่อยมีเวลาเรียกเกมส์ที่มีแถมมาให้กับระบบ Windows 7 เลย และต้องการเพิ่มพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสต์ให้เหลือเพิ่มขึ้น เราก็สามารถลบเกมส์ที่มีมาให้กับระบบ Windows ดังกล่าวออกไปจากระบบได้ง่ายๆครับ ด้วยวิธีการดังนี้ ....