Application for SONY VAIO
ก็จะขอแนะนำเป็นบางโปรแกรมนะครับ อย่างโปรแกรม VAIO Care ที่เมื่อมีการกดปุ่มฟังก์ชั่นพิเศษบนตัวเครื่องอย่างปุ่ม ASSIST ตัวโปรแกรมเฉพาะของ SONY VAIO ตัวนี้ก็จะถูกเปิดขึ้นมาให้ใช้งาน สำหรับตรวจเช็คเครื่องของเราได้ เช่น การตรวจเช็คฮาร์ดดิสต์เพื่อดูการจัดระเบียบไฟล์จากการทำ Defragmentation หรือจะเป็นการทำ Clean up ด้วยการตั้งค่าให้ทำงานแบบอัตโนมัติก็สามารถทำได้
ต่อกันที่โปรแกรม VAIO Control Center โดยเราสามารถปรับแต่งการใช้พลังงานของตัวเครื่องผ่านโปรแกรมนี้ได้ครับ
System Information
Windows 7 Professional ก็จะเป็นระบบปฏิบัติการหลักที่ถูกติดตั้งมาให้กับเครื่องด้วยเลย อีกทั้งยังเป็นของแท้อีกด้วยครับ
Performance Information and Tools
ในส่วนของการวัดประสิทธิภาพของตัวเครื่องผ่านโปรแกรมที่มีติดมาให้กับ Windows 7 อยู่แล้ว ก็สามารถทำคะแนนในทุกๆส่วนออกมาได้ค่อนข้างสูงพอสมควร
Screen Resolution
แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดความกว้างเพียง 13.1 นิ้ว แต่ในเรื่องของการปรับค่าความละเอียดสูงสุดสามารถปรับได้แบบ Full HD กันเลยครับ
CPU-Z Information



GPU-Z Information
ทางด้านชิพกราฟิคที่มีมาพร้อมกับตัวเครื่องเลยและฝังอยู่บนชิพเดียวกันกับซีพียูก็จะเป็นชิพ Intel HD Graphics 3000 ซึ่งชิพตัวนี้ก็ถือได้ว่า สามารถเล่นเกมส์ได้ดีในระดับหนึ่งแล้วครับ มิหนำซ้ำก็สามารถทำคะแนนเฟรมเรทออกมาได้ดีอีกด้วย

สำหรับกราฟิคการ์ดแบบแยกที่ถูกบรรจุเอาไว้ใน Power Media Dock ตัวโปรแกรม GPU-Z จะมองรุ่นของกราฟิคการ์ด AMD Radeon HD 6650M เป็น HD 6730M

ตรวจเช็คสเปคเครื่องด้วยโปรแกรม AIDA64 Extreme Edition

Benchmark Test
สำหรับผลการทดสอบทาง VPC Lab เราจะแยกผลการทดสอบออกเป็น 2 ชุด ได้แก่ ผลทดสอบที่ได้จาก Intel HD Graphics 3000 ที่ถูกบรรจุรวมไว้กับตัวซีพียู และผลทดสอบที่ได้จากกราฟิคการ์ดแบบแยก AMD Radeon HD 6650M เพื่อเป็นการเปรียบเทียบดูว่าผลการทดสอบทั้ง 2 ชุดจะมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
ผลทดสอบที่ได้จาก Intel HD Graphics 3000
เรามาดูในส่วนของรายละเอียดของตัวแฟลชเมมโมรี่ (SSD) ที่จะถูกนำมาใช้แทนฮาร์ดดิสต์แบบจานหมุนกันก่อนครับ โดยแฟลชเมมโมรี่ที่ได้นำมาองค์ประกอบหลักที่จะช่วยให้การบูตระบบ Windows และโปรแกรมต่างๆทำได้เร็วขึ้นนี้จะเป็นของ Samsung ที่มาพร้อมกับรุ่น MZRPA256HMDR จำนวน 2 ชุด และมีการนำเทคโนโลยี Raid 0 มาใช้งานด้วย ก็จะช่วยทำให้พลังในการประมวลผลเพิ่มขึ้นอีก 20% แถมกินไฟน้อยลงถึง 30% และลดความร้อนสะสมของตัวเครื่องไปได้อีก 40% เลยทีเดียวเชียวครับ
ในส่วนของผลการทดสอบก็จะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของแฟลชเมมโมรี่ โดยการใช้ HD Tune 4.60 สำหรับการทดสอบ ซึ่งผลการทดสอบดังกล่าวนี้จะยังไม่ได้มีการต่อชุด Power Media Dock เพิ่มเข้าไป แต่จะเป็นการทดสอบแบบโดดๆเฉพาะตัวเครื่องเลยครับ ก็จะได้ความแรงออกมาดังรูป

การตรวจเช็คความร้อนภายในเครื่องโดยใช้โปรแกรม HWiNFO32 ขณะเปิดเครื่องสแตนบายด์เอาไว้

รวมทั้งการเร่งการทำงานของระบบโดยรวมให้ทุกอย่างทำงานแบบ Full Load (ยกเว้นกราฟิค) ด้วย AIDA64 เพื่อทดสอบหาความร้อนสูงสุด
และกลับมาที่ผลเบ็นช์มาร์คเล็กๆน้อยๆกับโปรแกรม HWiNFO32

Hyper PI 0.99b

PCMark Vantage Professional 64-bit
PCMark 7 Professional
3DMark06 Professional
3DMark Vantage
3DMark 11 Professional
CineBench R11.5 (64-bit)

ต่อไปเราก็มาดูผลทดสอบที่ได้จากกราฟิคการ์ดแบบแยก AMD Radeon HD 6650M กันบ้างครับ
PCMark Vantage Professional 64-bit
3DMark06 Professional
3DMark Vantage
CineBench R11.5 (64-bit)
Unigen Heaven Benchmark v.2.5 (DirectX 11)

และสุดท้ายกับการทดสอบการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ด้วยการทดสอบเฉพาะ แบตเตอรี่ของตัวเครื่อง (ไม่ได้มีการเสียบชุด Power Media Dock) ด้วยโปรแกรม BatteryMon
ด้วยการเปิดหนังแบบ Full HD ไปด้วย โดยเริ่มนับจากประจุไฟเต็มก้อนที่ 100% จนถึง 8% แล้วหน้าจอดับไป ผลปรากฏว่า แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานสุด 1 ชม. 50 นาที
และระยะเวลาของการชาร์จไฟกลับเข้าไปใหม่ โดยเริ่มจาก 8% ไปจนครบ 100% จะใช้ระยะเวลาในการชาร์จไฟทั้งหมดอยู่ที่ 2 ชม. 10 นาทีครับผม

สรุปผลการทดสอบ

จากการที่ผมได้ทดลองใช้งานและทดสอบโน้ตบุค VAIO Z อยู่พักใหญ่ ก็พบว่าโน้ตบุครุ่นนี้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการทำงานที่ครบเครื่องมากทีเดียวเหมาะสมกับราคาจริงๆ เพราะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานทางด้านมัลติมีเดีย, งานทั่วไป และงานทางด้านกราฟิค 3D และผลทดสอบที่ได้จากความรู้สึกก็สามารถแบ่งออกมาเป็นหัวข้อย่อยได้ดังนี้
+ ในส่วนของหน้าจอขนาด 13.1 นิ้ว ถ้าหากเทียบกับโน้ตบุคหลายๆรุ่นที่มีวางจำหน่ายอยู่และมีขนาดหน้าจอที่เท่า หรือใกล้เคียงกัน จะไม่สามารถแสดงผลที่ความละเอียดระดับ Full HD ได้ (บางรุ่นสามารถให้ความละเอียดสูงสุดที่ 1600×900 พิกเซลเท่านั้น แถมตัวหน้าจอก็ยังเพิ่มความสามารถการแสดงเฉดสีในเรื่องของค่า Adobe RGB ได้สูงถึง 96% อีกด้วย พร้อมทั้งตัวหน้าจอก็ได้มีการเคลือบสารพิเศษเพื่อป้องกันแสงสะท้อนมารบกวน การมองขณะใช้งาน
+ บนโน้ตบุค VAIO Z รุ่นนี้ก็จะแตกต่างกับ VAIO Z รุ่นก่อนหน้าก็ตรงที่มีการนำแฟลชเมมโมรีมาใช้งานเพียงหนึ่งลูก แต่สำหรับ VAIO Z รุ่นใหม่ที่ทาง VPC Lab ได้ทำการทดสอบจะใช้แฟลชเมมโมรีจำนวน 2 ชุดมาต่อด้วยเทคโนโลยีของ Raid 0 มาช่วยด้วย ก็ส่งผลให้ความสามารถในการอ่าน/เขียนข้อมูลทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
+ ในด้านของตัวบอดี้จะมีการนำเอาวัสดุพิเศษอย่างคาร์บอนไฟเบอร์มาประกอบทั้ง หมด และออกแบบรูปทรงให้มีลักษณะแบบ 6 เหลี่ยม และได้มีการทดสอบแล้วว่าการออกแบบรูปทรงดังกล่าว จะช่วยให้ตัวโน้ตบุคมีความแข็งแรงต่อแรงกดกระแทกเป็นอย่างมาก
+ และอีกส่วนที่น่าประทับใจกับชุด Power Media Dock ที่ถือว่าเป็นไม้ตายของทางโซนี่เลยก็ว่าได้ ที่จะเป็นทั้งตัวบลูเรย์ไดรฟ์และกราฟิคการ์ดรวมอยู่ในตัวเดียวกัน และมีการใช้เทคโนโลยี Light Peak ที่ทาง Intel เป็นผู้ออกแบบให้สายไฟเบอร์ออพติคเป็นตัวส่งถ่ายข้อมูล ก็จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพที่ได้จากการใช้งานกราฟิคเป็นไปได้อย่างยอดเยี่ยม อีกด้วย มิหนำซ้ำ ชุด Power Media Dock ชุดนี้ยังสามารถต่อเข้ากับจอมอนิเตอร์ได้สูงสุดถึง 4 หน้าจอพร้อมกัน และสามารถตั้งค่าให้แต่ละหน้าจอแยกการทำงานอิสระออกจากกันได้อีกด้วยครับ
+ รวมทั้งระบบที่ใช้ในการควบคุมเสียงบนโน้ตบุค VAIO Z จะนำระบบ Dolby Home Treater v4 มาใช้งาน ทำให้การรับชมภาพยนตร์, ฟังเพลง, เล่นเกมส์ หรือจะใช้ในการฟังรายการประชุมก็สามารถขับพลังเสียงผ่านลำโพงของตัวเครื่อง ออกมาได้อย่างชัดเจน แม้จะเปิดเสียงให้ดังแบบสุดๆก็ยังคงความชัดอยู่ครับ
ก็คงจะถูกอกถูกใจเพื่อนๆที่ชื่นชอบสินค้าดีๆจาก SONY กันไปพอสมควรนะครับ ถ้าหากเพื่อนๆท่านใดอยากสัมผัสตัวจริงของโน้ตบุครุ่นนี้แบบใกล้ชิดละก็ สามารถแวะชมสินค้าชิ้นนี้ได้ที่ Shop ของ SONY VAIO ได้ทุกสาขาเลย สำหรับวันนี้ก็ขอจบบทความเอาไว้แด่เพียงเท่านี้นะครับผม
ในส่วนของราคาค่าตัวของ SONY VAIO VPC-Z217GH (Carbon Black) ก็จะอยู่ที่ 94,990 บาท
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
+ โซนี่ไทยเปิดตัว VAIO Z ใหม่ อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพเต็มพลัง