หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่เล่นเกมบน Windows 11 และพบว่า FPS (Frames Per Second) ต่ำ ทำให้ภาพกระตุกหรือไม่ลื่นไหล นี่คือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข การเพิ่ม FPS ไม่เพียงแต่ทำให้เกมดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณตอบสนองเร็วขึ้นในการเล่นเกมแบบแข่งขันอีกด้วย
บทความนี้จะแนะนำวิธีเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11 อย่างละเอียด พร้อมโครงสร้าง SEO-friendly ที่ช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้งานได้จริง
วิธีตรวจสอบ FPS ของเกม
ก่อนที่เราจะไปเพิ่ม FPS เราต้องรู้วิธีเช็ค FPS ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการปรับแต่ง
วิธีใช้ Xbox Game Bar
- กด Win + G เพื่อเปิด Xbox Game Bar
 - ไปที่ Performance แล้วเลือก FPS
 - เปิดเกมที่ต้องการ และสังเกตค่า FPS ที่มุมหน้าจอ
 
วิธีใช้ซอฟต์แวร์เสริม
- MSI Afterburner (รองรับ NVIDIA และ AMD)
 - FRAPS (รองรับเกมส่วนใหญ่)
 - NVIDIA GeForce Experience (สำหรับการ์ดจอ NVIDIA)
 
️ วิธีเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11
1. ปรับแต่งการตั้งค่ากราฟิกในเกม
หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดคือการลดรายละเอียดของกราฟิกในเกมเพื่อให้ FPS สูงขึ้น
ค่าที่ควรลดลงเพื่อเพิ่ม FPS
- Resolution: จาก 1920×1080 ลดเป็น 1600×900 หรือ 1280×720
 - Texture Quality: ปรับจาก Ultra เป็น Medium หรือ Low
 - Shadows: ปิดหรือปรับเป็น Low
 - Anti-Aliasing: เลือก FXAA หรือปิดไปเลย
 - V-Sync: ปิดเพื่อลดการจำกัด FPS
 - Motion Blur: ปิดเพื่อลดความเบลอของภาพ
 
2. เปิดใช้งาน Game Mode บน Windows 11
Game Mode จะช่วยปิดแอปที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU และ GPU
วิธีเปิด Game Mode
- ไปที่ Settings
 - เลือก Gaming
 - คลิกที่ Game Mode และเปิดใช้งาน
 
3. ปรับแต่ง Graphics Performance Preference
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณสามารถกำหนดให้เกมใช้ GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้
วิธีตั้งค่า High Performance
- ไปที่ Settings > System > Display
 - คลิก Graphics
 - เลือกเกมที่ต้องการ > Options
 - ตั้งค่าเป็น High Performance
 
4. อัปเดตไดรเวอร์การ์ดจอ
การ์ดจอที่ใช้ไดรเวอร์เวอร์ชันเก่าอาจทำให้ FPS ลดลง
วิธีอัปเดตไดรเวอร์
- NVIDIA: ดาวน์โหลดจาก GeForce Experience
 - AMD: อัปเดตผ่าน Adrenalin Software
 - Intel: ใช้ Intel Graphics Command Center
 
5. ปิดโปรแกรมที่รันอยู่เบื้องหลัง
แอปพลิเคชันที่รันอยู่เบื้องหลัง เช่น Discord, Chrome, และ OneDrive อาจกินทรัพยากรเครื่อง
วิธีปิดแอปที่ไม่จำเป็น
- กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
 - ไปที่แท็บ Processes
 - คลิกขวาที่แอปที่ไม่จำเป็น > End Task
 
6. ปรับแต่ง Power Plan ให้เป็น High Performance
วิธีเปลี่ยน Power Plan
- กด Win + X > Power Options
 - เลือก Additional power settings
 - ตั้งค่าเป็น High Performance หรือ Ultimate Performance
 
7. ปิดเอฟเฟกต์พิเศษของ Windows 11
Windows 11 มีเอฟเฟกต์ภาพที่สวยงาม แต่สามารถลด FPS ได้
วิธีปิดเอฟเฟกต์
- กด Win + R พิมพ์ 
sysdm.cplแล้วกด Enter - ไปที่แท็บ Advanced > Performance > Settings
 - เลือก Adjust for best performance
 
8. ปิดการอัปเดต Windows ชั่วคราว
การอัปเดต Windows อาจใช้ทรัพยากรเครื่องโดยไม่รู้ตัว
วิธีปิดอัปเดต
- ไปที่ Settings > Windows Update
 - คลิก Pause updates for 7 days
 
9. ล้างไฟล์ขยะและรีสตาร์ทเครื่อง
วิธีล้างไฟล์ขยะด้วย Disk Cleanup
- กด Win + R พิมพ์ 
cleanmgrแล้วกด Enter - เลือกไดรฟ์ C: และคลิก OK
 - เลือก Temporary files, Recycle Bin, System files แล้วกด Delete
 
10. ใช้ซอฟต์แวร์เพิ่ม FPS
โปรแกรมที่ช่วยเพิ่ม FPS
- Razer Cortex – ปิดแอปที่ไม่จำเป็นขณะเล่นเกม
 - MSI Afterburner – ปรับแต่งการ์ดจอและตรวจสอบ FPS
 - NVIDIA Reflex – ลดเวลาแฝงของระบบ (สำหรับการ์ดจอ NVIDIA)
 
บทสรุป
การเพิ่ม FPS ในเกมบน Windows 11 สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งการตั้งค่ากราฟิก อัปเดตไดรเวอร์ หรือปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น หากคุณลองทำตามวิธีเหล่านี้ รับรองว่าเกมของคุณจะเล่นได้ลื่นขึ้นแน่นอน!
			

























