ในช่วงหน้าฝน หรือน้ำหลากแค่ไม่กี่ชั่วโมง ถนนที่ใช้ทุกวันอาจกลายเป็นคลองชั่วคราวได้แบบไม่ทันตั้งตัว การมี “แอปแจ้งเตือนน้ำท่วมแบบเรียลไทม์” ติดมือถือ จึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นหนึ่งใน “เครื่องมือเอาชีวิตรอด” ที่ช่วยให้เราวางแผนออกจากบ้าน เดินทางกลับบ้าน หรือเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้ดีขึ้นมาก
บทความนี้จะพาไปรู้จัก 5 แอปเช็กน้ำท่วม–เตือนภัยน้ำท่วมแบบเรียลไทม์ ที่ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐและดาวเทียม มีทั้งแบบเป็นแผนที่ ภาพสีสวย ๆ และแบบแจ้งเตือนผ่าน Notification ให้ครบในที่เดียว พร้อมไอเดียการใช้งานให้คุ้มในชีวิตประจำวัน
ทำไม “แอปแจ้งเตือนน้ำท่วม” ถึงสำคัญกว่าที่คิด
หลายคนจะเริ่มสนใจเรื่องน้ำท่วมก็ตอนที่น้ำมาถึงหน้าบ้านแล้ว ทั้งที่จริง ๆ แล้วเราสามารถ “รู้ตัวก่อน” ได้จากข้อมูลที่อยู่ในมือถือเรานี่แหละ
ประโยชน์หลักของการใช้แอปเช็กน้ำท่วม
-
วางแผนการเดินทางได้ดีขึ้น
เลือกเส้นทางเลี่ยงจุดน้ำท่วม ลดโอกาสติดแหง็กอยู่กลางถนนทั้งคืน -
เตรียมตัวก่อนน้ำมาถึง
ย้ายรถ ย้ายของสำคัญขึ้นที่สูง เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน ไม่ต้องทำทุกอย่างแบบลน ๆ นาทีสุดท้าย -
รู้สถานการณ์จริง ไม่ใช่แค่ข่าวลือ
ข้อมูลจากสถานีวัดจริง เขื่อนจริง และข้อมูลดาวเทียม ช่วยลดความตื่นตระหนกจากข่าวแชร์ต่อแบบไม่มีแหล่งที่มา -
ช่วยคนในบ้านได้ทันเวลา
โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยง การรู้ก่อน “ชั่วโมงสองชั่วโมง” มีค่ามากจริง ๆ
5 แอปเช็กน้ำท่วมเรียลไทม์ ที่ควรโหลดติดเครื่อง
ด้านล่างนี้คือ 5 แอปแจ้งเตือนน้ำท่วมที่เน้นข้อมูลจริงและอัปเดตตลอดเวลา มีทั้งแนวแผนที่ภาพสวย และแนว Dashboard เน้นตัวเลข–กราฟ ให้เลือกใช้ตามสไตล์เลย
1. ThaiWater – ศูนย์รวมข้อมูลน้ำและฝนรอบประเทศ
ThaiWater เป็นเหมือน “ศูนย์สังเกตการณ์น้ำในมือเรา” เพราะดึงข้อมูลด้านน้ำและอากาศจากหลายหน่วยงานมารวมไว้ในแอปเดียว
จุดเด่นของ ThaiWater
-
แผนที่แสดง จุดวัดระดับน้ำ แม่น้ำ คลอง เขื่อน และอ่างเก็บน้ำ
-
แสดง ปริมาณฝนย้อนหลัง + คาดการณ์ฝน ช่วยวิเคราะห์ได้ว่าฝนตกหนักมานานแค่ไหนแล้ว
-
เลือก “พื้นที่โปรด” ได้ เช่น จังหวัดที่เราอยู่ หรือบ้านพ่อแม่ต่างจังหวัด
-
เหมาะมากกับคนที่อยากเห็น “ภาพรวมสถานการณ์น้ำทั้งประเทศ” ไม่ใช่แค่หน้าบ้านตัวเอง
เหมาะกับใคร
-
คนที่อยู่ใกล้แม่น้ำ คลอง หรือท้ายเขื่อน
-
คนที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดบ่อย ๆ
-
คนชอบดูข้อมูลเชิงลึก เช่น กราฟน้ำขึ้น–น้ำลง ตัวเลขปริมาณน้ำในเขื่อน ฯลฯ
2. THAI DISASTER ALERT – แอปเตือนภัยพิบัติจากภาครัฐ
ถ้าคุณอยากได้แอปที่ “เด้งเตือนให้เลยเมื่อใกล้มีเหตุ” แอปนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ควรมี
ไฮไลต์สำคัญของ THAI DISASTER ALERT
-
แจ้งเตือนภัยหลายประเภท เช่น
-
น้ำท่วม / น้ำป่าไหลหลาก
-
ฝนตกหนัก
-
พายุ
-
-
ใช้ ตำแหน่งปัจจุบัน หรือเลือกตำแหน่งที่สนใจเองได้
-
มีระบบ Notification เมื่อมีประกาศหรือสถานการณ์เสี่ยงในพื้นที่
เหมาะกับใคร
-
คนที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเปิดแผนที่ดูเองตลอด
-
คนที่อยากได้ “แอปเตือนก่อน” แบบเสียงดัง ๆ เตือนเลย
-
เหมาะมากกับครอบครัวที่อยากให้ทุกคนเปิดแอปนี้แล้วรับเตือนพร้อมกัน
3. WMSC – ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน
แอปนี้เหมือน “หลังบ้านการบริหารจัดการน้ำของประเทศ” ที่ถูกย่อมาลงในมือถือ
จุดเด่นของ WMSC
-
เน้นข้อมูลจาก กรมชลประทาน เช่น
-
ปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก–เขื่อนรอง
-
อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ
-
ปริมาณน้ำไหลเข้า–ไหลออก
-
-
ช่วยให้เห็นว่า “น้ำต้นทาง” กำลังเป็นอย่างไร
ถ้าต้นน้ำเริ่มเต็ม–เริ่มระบาย ก็มีโอกาสที่ปลายน้ำต้องเตรียมพร้อมมากขึ้น
เหมาะกับใคร
-
คนที่อยู่ใกล้พื้นที่ชลประทาน หรือท้ายเขื่อน
-
เกษตรกรที่ต้องวางแผนใช้น้ำ–รับมือน้ำหลาก
-
คนที่อยากเข้าใจเบื้องหลังว่า ทำไมบางพื้นที่มีการระบายน้ำช่วงนี้
4. DWR4THAI – แอปดูระดับน้ำและน้ำหลากแบบ 24 ชั่วโมง
ใครอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำป่า–ดินถล่ม หรือตามภูเขา แอปนี้คือเพื่อนที่ดีมาก
ฟีเจอร์เด่นของ DWR4THAI
-
แสดงข้อมูลน้ำแบบ Real Time ทั้งกลางวัน–กลางคืน
-
มีเมนูเกี่ยวกับ น้ำหลาก น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
-
รวมข่าวสารและข้อมูลจากกรมทรัพยากรน้ำในมุมต่าง ๆ
เหมาะกับใคร
-
คนที่อยู่ใกล้เชิงเขา หรือพื้นที่ที่เคยมีน้ำป่ามาก่อน
-
คนที่ต้องเดินทางระหว่างอำเภอที่เป็นเขตภูเขา/เนินสูง
-
คนที่อยากรู้สถานการณ์น้ำมากกว่าแค่ “ท่วม–ไม่ท่วม” แต่รวมไปถึงความเสี่ยงพื้นดินด้วย
5. “เช็คน้ำ” (ChekNam) – แอปแผนที่น้ำท่วมสไตล์ทันสมัย
สายชอบดูแผนที่ สีสันชัด ๆ เข้าใจง่าย น่าจะถูกใจกับแอปแนวนี้
ทำไม “เช็คน้ำ” ถึงน่าโหลด
-
ใช้ข้อมูล ดาวเทียม + แผนที่ GIS แสดงพื้นที่ที่มีน้ำท่วม หรือเสี่ยงน้ำท่วม
-
มีแผนที่สีดูง่าย เห็นโซนเสี่ยงแบบชัด ๆ ว่าจุดไหนควรเลี่ยง
-
มีข้อมูลปริมาณฝน และระดับน้ำจากหลายสถานีวัด
เหมาะกับใคร
-
คนเมืองที่ต้องเช็กสภาพเส้นทางก่อนออกไปทำงาน/เรียน
-
คนที่อยากดูภาพรวมแบบ “เห็นแล้วเข้าใจทันที” ไม่ต้องตีความกราฟเยอะ
-
เหมาะกับการใช้ช่วยตัดสินใจว่า “จะออกจากบ้านตอนนี้ดีไหม?”
ใช้กี่แอปดี? ต้องโหลดทั้งหมดไหม
จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องใช้ทุกแอปพร้อมกัน แต่การมีสัก 2–3 แอปที่ทำหน้าที่ต่างกัน จะช่วยให้ข้อมูลรอบด้านมากขึ้น
ตัวอย่างการจัดชุดแอปใช้งานจริง
คุณอาจเลือกแบบนี้ก็ได้:
-
ThaiWater – เอาไว้ดูภาพรวมทั้งประเทศ +เขื่อน
-
THAI DISASTER ALERT – เอาไว้ให้มือถือ “เตือนให้เอง”
-
เช็คน้ำ – เอาไว้ดูแผนที่น้ำท่วมแบบภาพสวย เข้าใจง่าย
หรือถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ภูเขา/เสี่ยงน้ำป่า ก็อาจเพิ่ม DWR4THAI เข้าไปด้วยอีกหนึ่งตัว
วิธีใช้งานแอปแจ้งเตือนน้ำท่วมให้ได้ผลที่สุด
มีแอปแล้ว แต่ถ้าใช้ไม่เต็มที่ ก็อาจไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร ลองเช็กตามนี้
เช็กให้ครบตั้งแต่วันแรกที่โหลด
-
✅ เปิด Location Services ให้แอปที่ต้องใช้ตำแหน่งจริง
-
✅ เปิด การแจ้งเตือน (Notification) ทั้งเสียง–ป็อปอัป
-
✅ เลือก “พื้นที่ที่สนใจ” เช่น บ้านตัวเอง ที่ทำงาน โรงเรียนลูก
-
✅ ลองเข้าไปดูหน้าหลักทุกแอป เพื่อคุ้นกับเมนูและรูปแบบข้อมูล
สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ
-
เปิดแอปเช็กสภาพน้ำและฝน อย่างน้อยวันละครั้ง ช่วงหน้าฝน
-
เวลาเห็นข่าวน้ำท่วมในจุดใกล้เคียง ให้ลองเช็กซ้ำในแอปว่าข้อมูลตรงกันไหม
-
บันทึก Screenshot หรือแชร์ภาพแผนที่ให้คนในบ้าน/คนในไลน์กลุ่ม เพื่อให้ทุกคนรู้สถานการณ์เดียวกัน
ทริคเสริมความปลอดภัย ในวันที่แอปเตือนว่าน้ำเริ่มมาแรง
แอปแจ้งเตือนน้ำท่วมเป็น “ตัวบอกสัญญาณ” แต่การตัดสินใจอยู่หรืออพยพ ยังต้องใช้วิจารณญาณและแผนสำรองเสมอ
ก่อนน้ำมาถึง
-
เก็บของสำคัญ เช่น เอกสาร รูปถ่าย เครื่องใช้ไฟฟ้าตัวเล็ก ไว้ชั้นสูง
-
ย้ายรถไปจอดในจุดที่ยกพื้นสูง หรืออาคารจอดรถชั้นบน
-
เตรียม “กระเป๋าฉุกเฉิน” ใส่
-
ยา
-
เสื้อผ้า
-
แบตสำรอง
-
สายชาร์จ
-
เอกสารสำเนาบัตรต่าง ๆ
-
ระหว่างที่น้ำกำลังมา
-
หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำที่ลึก หรือมีกระแสน้ำแรง
-
ไม่ยืนใกล้เสาไฟฟ้า หรือจุดที่มีสายไฟห้อย
-
ถ้าต้องขับรถผ่านน้ำ ให้ระวังฝาท่อและพื้นถนนที่อาจทรุดตัว
หลังน้ำลด
-
อย่าเพิ่งเปิดใช้งานปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้ายังไม่ได้ตรวจสอบความปลอดภัย
-
ใช้แอปเดิมเช็กสถานการณ์ต่อ ว่าจะมีฝนรอบใหม่หรือน้ำหลากรอบสองหรือไม่
-
ถ่ายรูปความเสียหายเก็บไว้ใช้ในกรณีต้องติดต่อประกัน/หน่วยงานรัฐ
สรุป: แอปแจ้งเตือนน้ำท่วม = ผู้ช่วยที่ไม่ควรมองข้าม
ในยุคที่ทุกอย่างอยู่ในมือถือ การไม่รู้ว่าพื้นที่ตัวเองกำลังเสี่ยงน้ำท่วมหรือไม่ แทบจะกลายเป็น “ความเสี่ยงที่เลี่ยงได้แต่เราไม่เลี่ยง” เลยทีเดียว
การติดตั้ง 5 แอปเช็กน้ำท่วมเรียลไทม์ อย่างน้อย 2–3 ตัว แล้วเปิดแจ้งเตือนให้พร้อม จะช่วยให้คุณ:
-
รู้ทันสถานการณ์น้ำท่วม–น้ำหลาก
-
วางแผนการเดินทางและการใช้ชีวิตได้ปลอดภัยกว่าเดิม
-
ปกป้องครอบครัว ทรัพย์สิน และตัวคุณเองได้ดีขึ้น
รวมความรู้พื้นฐานและเทคนิคการใช้งาน สมาร์ทโฟน อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การตั้งค่าเบื้องต้น แอปพลิเคชันที่ควรมี ไปจนถึงเคล็ดลับการใช้งานให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สบู่พิพัฒน์ กรีเซอรีนอโลเวร่า (Aloevera Bright Soap) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ ซึ่งช่วยลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และกระชับรูขุมขน พร้อมเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มและกระจ่างใส ผลิตภัณฑ์นี้อ่อนโยนต่อผิวหน้า และเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

























