เช้าตรู่ของวันหนึ่ง เมื่อหลายสิบปีก่อน เด็กนักเรียนห้องผมพากันตื่นเต้น เพราะคุณครูประจำชั้นบอกว่า วันนี้พวกเราจะได้รับเสด็จในหลวงกัน
หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ คุณครูก็พาพวกเราไปนั่งรออยู่ริมถนนหน้าโรงเรียน แจกธงชาติอันเล็กๆให้พร้อมกับบอกให้พวกเราช่วยกันโบกธงตอนที่รถของในหลวงวิ่งผ่านไป
รออยู่นานเกือบสองชั่วโมง คุณครูก็เดินหน้าเศร้ามาบอกกับพวกเราให้กลับเข้าห้องเรียน เพราะขบวนเสด็จจะไม่ผ่านมาทางหน้าโรงเรียนของเราแล้ว เนื่องจากถนนหน้าโรงเรียนเป็นเส้นทางที่อ้อมมาก มีถนน by pass อีกสายหนึ่งที่จะวิ่งไปหัวหินได้เร็วกว่า
ทุกคนหน้าเศร้า รู้สึกเสียใจ เพราะนักเรียนในห้องของผม ยังไม่เคยมีใครเคยได้เห็นในหลวงองค์จริงๆกันเลยสักคนเดียว แต่ขณะที่เด็กๆกำลังจะเดินกลับห้องไปเรียนหนังสือตามปกตินั่นเอง ก็มีเสียงรถนำขบวนของตำรวจดังขึ้น
คุณครูเรียกให้ทุกคนกลับมานั่งอยู่ในตำแหน่งเดิม
หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาที รถของในหลวงก็ค่อยๆแล่นผ่านไป
พวกเราโบกธงชาติในมือ พร้อมกับตะโกนคำว่า 'ทรงพระเจริญ' เสียงดังลั่น
ผมยังจำได้ว่ารถค่อยๆชะลอช้าลง พระองค์ทรงเปิดกระจก และโบกมือทักทายเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลราชบุรี พระพักตร์มีรอยแย้มสรวล
หลายวันต่อมาผมจึงได้รู้ว่า ขณะกำลังจะเสด็จออกจากศาลากลางจังหวัด ในหลวงทรงทราบจากศึกษาธิการจังหวัดว่า มีเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งมานั่งรอรับเสด็จพระองค์ตั้งแต่เช้า แทนที่จะวิ่งออกถนนเพชรเกษม พระองค์จึงมีรับสั่งให้ขบวนเสด็จย้อนกลับมาทางถนนศรีสุริยวงศ์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่อ้อมกว่า เพียงเพื่อจะผ่านโรงเรียนอนุบาลราชบุรี ให้เด็กนักเรียนที่เฝ้ารอรับเสด็จได้เห็นพระองค์ สมกับที่มาเฝ้ารอคอยนานนับชั่วโมง...
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ขอขอบคุณเรื่องเล่าดีๆจากคุณ Pongsakorn Chindawatana