แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด: จะเป็นแบบ Chiclet ที่เป็นเทรนด์โน้ตบุคอยู่ในเวลานี้ ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่ สามารถพิมพ์ได้ง่าย ไม่เมื่อยนิ้ว เพราะปุ่มกดแต่ละปุ่มแยกออกจากกันอิสระ และลดการพิมพ์ที่ผิดพลาดได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งการเพิ่มลูกเล่นพิเศษอย่างไฟเรืองแสงอัตโนมัติ เมื่อนำไปใช้งานในที่มีแสงสว่าง หากไม่ได้ใช้งานปุ่มกดใดๆ แล้วมีเงากระทบลงที่ตัวเครื่องหรือคีย์บอร์ด จะมีแสงไฟสีขาวสะท้อนขึ้นมาทันที
หรือแม้แต่การใช้งานในที่มืด หากมีการสัมผัสบริเวณปุ่มกดใดๆ, การพับงอหน้าจอ จะมีแสงไฟสะท้อนขึ้นมาจากใต้ปุ่มกดด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าไม่มีการใช้งานปุ่มกดใดๆเป็นระยะเวลาประมาณ 10 วินาที ไฟเรืองแสงก็จะดับเองโดยอัตโนมัติ
กล้องเว็บแคมที่สามารถจับภาพด้วยความคมชัดที่ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล ได้อย่างชัดเจนและใกล้กันจะเป็นไมโครโฟนแบบ Build-in ไว้สำหรับแชทพูดคุยแบบเห็นหน้าได้อย่างชัดเจนกับโปรแกรมสนทนาต่างๆได้อีก ด้วยครับ
ในส่วนของจอภาพ ในเรื่องของความบางก็ทำได้ดี ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ความทนทาน, น้ำหนักเบา และการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ SONY VAIO จริงๆครับ
ด้านล่างของตัวเครื่อง: จะใช้วัสดุการผลิตด้วยแมกนีเซียมสีดำ และมีการระบุสเปคแบบคร่าวๆของเครื่องไว้ได้ค่อนข้างละเอียดพอสมควรครับ
ฝาปิดตรงตำแหน่งของฮาร์ดดิสต์และแรมก็สามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย เพื่อการอัพเกรดอุปกรณ์ได้อีกด้วย
ในส่วนของฮาร์ดดิสต์จะเป็นยี่ห้อ Toshiba รุ่น MK5056GSY ซึ่งเป็นขนาดความจุ 500GB, ความเร็วของจานหมุน 7,200 รอบต่อนาที และมีแคชมาให้ 16MB อีกด้วย และมีน้ำหนักโดยรวม 115 กรัม
แรมจะเป็นยี่ห้อ Samsung ขนาด 4GB และบัส 1333MHz จำนวน 1 แถว และจะมีสล็อตว่างให้อีก 1 ช่อง
แบตเตอรี่จะเป็นชนิด Li-ion แบบ 6 Cell 5300mAh และจ่ายแรงดันไฟที่ 11.1v.
ขณะทำการทดสอบโน้ตบุคอยู่เป็นระยะเวลานานพอสมควร ก็มาถึงการวัดอุณหภูมิความร้อนกันบ้างครับ ซึ่งจากรูปจะเป็นการเปิดโปรแกรม CineBench สำหรับเรนเดอร์ภาพ 3 มิติแบบต่อเนื่อง และเป็นการเร่งความเร็วซีพียูและชิพกราฟิคให้ทำงานหนักมากขึ้น
ผลปรากฏว่า ความร้อนที่ถูกส่งออกมาจากช่องระบายอากาศโดยรวมจะอยู่ที่ 49 องศาเลยทีเดียว แต่ก็ถือว่าไม่ร้อนมาก
น้ำหนักเฉพาะตัวเครื่อง: จะอยู่ที่ 2.35 กิโลกรัม
เมื่อนำอะแด็บเตอร์และสายไฟ AC มาชั่งรวมกัน น้ำหนักโดยรวมจะอยู่ที่ 2.71 กิโลกรัมครับ (ก็ยังถือว่าพกพาไปไหนมาไหนได้ค่อนข้างสะดวกอยู่นะ)