วิธีปิด Windows Defender ชั่วคราวบน Windows 10

0
18187
วิธีปิด Windows Defender ชั่วคราวบน Windows 10
วิธีปิด Windows Defender ชั่วคราวบน Windows 10

สำหรับบทความ วิธีปิด Windows Defender ชั่วคราวบน Windows 10 ส่วนใหญ่การที่เราจะปิดการทำงานแอนตี้ไวรัสอย่าง Windows Defender หรือเรียกชื่อเต็มๆอีกชื่อก็คือ Windows Defender Security Center จะใช้ในกรณีที่เพื่อนๆต้องการติดตั้งโปรแกรมที่จำเป็นต้องมีการเปิดไฟล์แครกเพื่อทำการแพทช์ไฟล์หรือต้องการเปิดไฟล์แครกเพื่อเอาซีเรียลนัมเบอร์มาทำการลงทะเบียนกับตัวโปรแกรม เพราะไฟล์แครกเหล่านี้จะมีถูกเขียนขึ้นมาด้วยซอร์สโค้ดที่คล้ายกันกับการทำงานของไวรัส, มัลแวร์ หรือไฟล์แครกบางตัวก็อาจจะมีการสอดแทรกโค้ดไวรัส, มัลแวร์เข้ามาด้วย จนทำให้ตัวโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอย่าง Windows Defender ที่คอยรักษาความปลอดภัยตรวจสอบไฟล์ดังกล่าวว่าไม่ปลอดภัยและอาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของเรา

ส่วนหนึ่งถ้าเราไม่ปิดการทำงานของ Windows Defender เมื่อมีการเปิดโปรแกรมแครกขึ้นมา ตัว Windows Defender ก็จะหน้าที่ป้องกันระบบโดยรวม และสั่งลบไฟล์แครกเหล่านั้นทิ้งทันที หรืออาจจะดักเอาจับเอาไว้ไม่ให้โปรแกรมแครกทำงาน ครั้งเมื่อเปิดไฟล์,โปรแกรมแครกขึ้นมา ตัวโปรแกรมดังกล่าวก็อาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์

Note. สำหรับเพื่อนๆท่านใดอยากปิดการทำงานของ Windows Defender แบบถาวรไปเลย และไม่อยากให้มันทำงานอีกก็สามารถปิดได้ด้วยบทความ 5 วิธี ปิด Windows Defender บน Windows 10 ถาวร

สำหรับการปิด Windows Defender แบบชั่วคราวกับบทความนี้จะต้องกระทำการตั้งค่าปิดการทำงานของ Windows Defender ด้วยตนเองเท่านั้น และถ้าหากต้องการให้ Windows Defender กลับมาทำงานอีกครั้ง เราก็ต้องเปิดการทำงานด้วยตนเองเช่นเดียวกัน จะไม่มีระบบระบุให้เปิดการทำงานโดยอัตโนมัติเหมือนแอนตี้ไวรัสบางค่ายครับ

ดังนั้นในบทความ การปิด Windows Defender ชั่วคราวบน Windows 10 ผมก็จะมานำเสนอวิธีการปิด Windows Defender ด้วยวิธีการง่ายๆดังนี้

โดยดับเบิ้ลคลิกไอคอน Windows Defender (โล่สีขาว) ขึ้นมา

เลือกเมนู Virus & threat protection -> เลือกหัวข้อ Virus & threat protection settings

ที่หัวข้อ Real-time protection คลิกเพื่อเลื่อนวงกลมสีดำไปทางซ้าย เพียงเท่านี้ตัวโปรแกรมแอนตี้ไวรัส Windows Defender ก็จะหยุดการสแกนไฟล์ไว้ชั่วคราว แล้วเราก็ทำการติดตั้งโปรแกรมหรือเรียกไฟล์แครกขึ้นมาใช้งานได้แล้วครับ

เมื่อติดตั้งโปรแกรมและเรียกเปิดไฟล์แครกต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็คลิกวงกลมกลับไปทางขวาเท่านั้น ตัวโปรแกรม Windows Defender ก็จะกลับมาทำงานตามปกติ

ทั้งนี้บางโปรแกรมจะมีบางไฟล์ในโฟลเดอร์นั้นๆที่มีการทำงานเป็นแบ็คกราวด์เหมือนแอนตี้ไวรัส Windows Defender เช่นเดียวกัน ขอยกตัวอย่างเช่น ไฟล์แครกหรือไฟล์ลงทะเบียน (Activation Windows) แล้วตัว Windows Defender ก็จะฟ้องขึ้นมาว่าไฟล์ดังกล่าวกำลังคุกคามหรือเป็นอันตรายต่อระบบ เราก็สามารถสั่งให้ Windows Defender ทำการยกเว้นไฟล์แครก Windows ไม่ให้ตัวแอนตี้ไวรัสทำการกำจัดได้

โดยเข้าไปที่เมนูเดียวกันคือ Virus & threat protection -> Exclusions แล้วคลิกหัวข้อ Add or remove exclusions

แล้วทำการเลือกประเภทการยกเว้นว่าต้องการให้ Windows Defender ไม่ต้องมาทำการสแกนไฟล์, โฟลเดอร์, ประเภทไฟล์ หรือโปรเซสที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นอันตรายต่อระบบหรือไม่ต่อไปครับ



บทความก่อนหน้านี้วิธีแก้ Google Play Store เกิดข้อผิดพลาดในการตรวจหาอัปเดต
บทความถัดไปการตั้งค่า Auto Login ด้วย Pin บน Windows 10
varietypc
ส่วนตัวชื่นชอบการเขียน, พัฒนาซอร์สโค้ดเว็บไซต์เป็นชีวิตจิตใจ ตลอดจนถึงอัพเดตเนื้อหาทริค, เทคนิคคอมพิวเตอร์ และข่าวสารเทคโนโลยีทุกอย่าง นอกเหนือจากการเคลียร์งานหลักเสร็จเรียบร้อย ก็จะมาทิ้งชีวิตให้กับ VarietyPC.net กันต่อแทบทุกวัน แต่บางครั้งอาจจะไม่ได้อัพเดตเนื้อหา เพราะต้องพัฒนาระบบการจัดการ Backend หลังบ้านไปด้วยและมีคนทำเพียงคนเดียว แม้จะไม่ได้รับผลตอบแทนจากแหล่งใดๆก็ตาม ตอนนี้เว็บไซต์เล็กๆแห่งนี้ก็ใกล้ย่างเข้าปีที่ 13 แล้วครับ และจะยังคงอยู่แชร์ความรู้กับพี่น้อง เพื่อนๆคนไทย และทั่วโลกตลอดไปครับ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับข่าว/บทความนี้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่